ยำข้าวปุ้น/ขนมจีน/ขนมเส้น

ยำข้าวปุ้น(ยำขนมจีนโคราช)
#สูตรทำยำ
ส่วนผสม....
1.เส้นขนมจีนหรือข้าวสวย
2.ปลาป่น(ปลาฉลาดย่างหรือปลาแห้งเอามาตำ)
3.น้ำปลาร้าต้มหรือดิบ
4.ปลาจ่อมหรือกุ้งจ่อม
5.น้ำมะนาว
6.พริกป่น
7.น้ำปลา/ชูรส
8.หอมแดงซอย
9.ต้นหอม+ผักชีซอย
10ไข่ต้ม/ปลาหวานกรอบ/ปลาทู/หมูยอ/แหนมฯลฯ
11.เครื่องเคียงอื่นๆและผักสดต่างๆที่ชอบเช่น

FB.Thai foods and Bakery's  

Thaifoodsandbakerys.blogspot.com

#วิธีทำ
1.เตรียมส่วยผสมให้ครบแล้วนำขนมจีนหรือข้าวหุงแล้วใส่ในกะละมังและนำส่วนผสม หอมแดงซอย พริกป่น ปลาป่น ลงคลุกเคล้าให้เข้ากัน

2.ปรุงรสด้วย น้ำปลาร้าและปลาจ่อม น้ำปลา น้ำมะนาว ตามชอบเปรี้ยวเค็มเผ็ด เติมผงชูรสถ้าชอบ จัดใส่จานตกแต่งด้วยผักสดต่างๆโรยหน้าด้วย ต้นหอม+ผักชีซอย 

บลูเบอร์รี่มัฟฟิ่น

#บลูเบอรี่มัฟฟิ่น

#ส่วนผสม

แป้งสาลี 200 กรัม

นมสด. 50 มิลลิกรัม

น้ำตาล 120 กรัม

ผงฟู 1 ซอง

กลิ่นวนิลลา 1 ชช

น้ำมันพืช.  150 มิลลิกรัม

ไข่ไก่.   4 ฟอง 

เปิดวอม์เตา 180องศา(350f)อบ 20 นาที 

บลูเบอร์รี่แล้วแต่ชอบเยอะใส่เยอะเอาที่พอดีก็ 5 ผลต่อชิ้น

By.Chili S

https://www.facebook.com/groups/1419978801617993/permalink/1625280077754530/

#วิธีทำ.

 ตีไข่ให้ขึ้นฟู. เติมน้ำตาลทีละนิดจนหมด. เติมวนิลลา ลงไป แล้วเติมนม ลงไปตีไปเลื่อยๆสลับกับเติมแป้งที่ผสมผงฟูไว้เรียบร้อยแล้ว ตามด้วยน้ำมันสลับกับแป้งจนหมดตีพอเข้ากันดี แล้วตักใส่พิมพ์ เหลือขอบไว้ 1 ซม.  แล้วเติมบูลเบอร์รี่ลงไปแล้วอบเลยค่ะ.  ให้เพื่อนๆอร่อยด้วยกันนะค่ะขอบคุณมากค่ะ

ขนมครก 3 สูตร

ขนมครกม้วน

FB.Thai foods and Bakery's  

Thaifoodsandbakerys.blogspot.com

Picture by. Sujitra lw

1.ขนมครก
#ส่วนที่1ชั้นล่าง
1.แป้งข้าวเจ้า 1/2 ถ้วย
2.น้ำกะทิ 1/2 ถต(แตงใส่วิปครีม1/4ถต+น้ำกะทิ1/4ถต)
3.น้ำเปล่า 1/2 ถต
4.น้ำปูนใส 3 ช.ต

(ไม่มีไม่เป็นไรค่ะถ้ามีใส่แล้วจะช่วยให้ผิวขนมกรอบ)

5.น้ำตาลทราย 1 ชช

6.เกลือป่นหยิบมือ
...................
#ส่วน2(หน้าขนมครก)
1.หัวกะทิข้นๆ 1 ถต

2.น้ำตาลทราย 2+1/2 ชต
3.เกลือ 1/2 ชช
4.แป้งข้าวจ้าว 1 ชต

5.ไส้ตามชอบเช่น ต้นหอม ข้าวโพด เผือก ฟักทอง ฝอยทองฯลฯ

#วิธีทำ1.คนผสมแป้งทั้งสองไว้และเตรียมไส้โดยหั่นเป็นลูกเต๋าแล้วลวกพอสุก

2.ตั้งกระทะเทปล่อนใช้ไฟปานกลางทาน้ำมันเล็กน้อยพอร้อนใช้ช้อนบ่วง

ตักส่วนที่1ใส่ 2 ช้อนพอเริ่มสุก ตักส่วนที่2 ใส่ 1 ช้อนใส่ไส้

3.ปิดฝาไว้ประมาณ1นาที พอสุกแล้วม้วน ทำแบบนี้จนหมดแป้ง

4.ทำเสร็จแล้วทานได้แล้วค่ะอร่อยหวานมัน

..................................................................

 

2.ขนมครก

ตัวขนม

ใช้แป้งข้าวเจ้าสำเร็ตรูป400กรัม

แป้งสาลี1ถ้วย

แป้งข้าวโพด1ถ้วย

นำ้ปูน2ถ้วย

กะทิกล่องใหญ่ตราอร่อยดี1000กรัม

นำ้เปล่าเดือดจัด1ลืตรผสทแป้งกะทิ

นำ้ปูนใส่ให้เข้ากันแล้วใส่เดลือ1ช.ช

นำ้ตาลทราย1ช.ต

สุดท้ายใส่นำ่เดือดจัด1บิตรลงไปคนให้เข้ากันทิ้งไว้สัก1ช.มแล้วก็ยกออกได้

ส่วนหน้า
ใช้กะทิ1กล่อง1000กรัมนำ้าตาลทราย600กรัมเกลือ40กรัมตั่งไฟคนให้เข้ากันอย่าให้เดือด

ปล่อยให้เย็นเวลาจะหยอดเอาตัวแป้งขนมผสมนิดหนี้ง
เวลาทำใข้ไฟอ่อน จะไม่ไหม้และกรอบนาน

 

3.ขนมครกโบราณ

ทำใส่พิมพ์หรือม้วนในกระทะเทปล่อน

#ส่วนผสม

1.แป้งข้าวจ้าว               150 กรัม

2.น้ำตาลทราย               1/2 ถ.ต

3.เกลือ                         1/2 ช .ช

4.กะทิ                           2 ถ.ต

5.ข้าวสวยสุกบดละเอียด     3 ช.ต

#วิธีทำ

#สำหรับใส่ไส้ ต้นหอมซอย/ข้าวโพดต้มหั่น/เผือกต้มสุกหั่นเต๋า/ฝอยทอง/อย่างอื่นที่ชอบ

1 ผสมทุกอย่างให้เข้ากันจนน้ำตาลละลาย พักไว้ก่อนค่ะ

2 ใช้กะทะเทปล่อนตั้งไฟอ่อนๆทาน้ำมันเล็กน้อย

3 พอกะทะร้อนใส่แป้ง 2 ช.ต ลงไปพอแป้งเริ่มเป็นฟองขุขละทั่วและสุกก็ม้วนพักไว้ที่จาน

 

ขนมรังผึ้งสูตรโบราณ

ขนมรังผึ้งสูตรโบราณ
ส่วนผสม
แป้งข้าวเจ้า 200 กรัม
ผงฟู 2 ช้อนชา
น้ำตาลปี๊บ 200 กรัม (เพิ่ม-ลดตามชอบ)...
ไข่ไก่เบอร์ 2 = 2 ฟอง
หัวกะทิ 1/3 ถ้วยตวง
น้ำเปล่า 1 ถ้วยตวง
มะพร้าวทึนทึกขูด 200 กรัม
ข้าวโพด ลูกเกด ฟักทอง ตามชอบ

 วิธีทำ
ผสมทุกอย่างเข้าด้วยกัน พักไว้ 1 ชั่วโมง
เสียบปลั๊กพิมพ์ไฟฟ้ารอให้ร้อน ทาเนยขาว หยอดส่วนผสม
ชอบแบบนุ่มหรือกรอบปรับระดับไฟได้ตามชอบค่ะหรือจะทำด้วยพิมพ์ที่ใช้ถ่านหรือฟืนแบบสมัยก่อนก็ได้ค่ะ อร่อยเท่ากัน

 

ขนมปุยฝ้าย 3 สูตร

 

ขนมปุยฝ้าย สูตร 1
แป้งสาลี (บัว) 200 กรัม
ผงฟู 1 ช้อนชา
ไข่ไก่ฟองใหญ่ 2 ฟอง (100 กรัม)
นำ้ตาลทราย 180 กรัม (1ถ้วย)
นำ้ใบเตย 1/4 ถ้วย
นำ้ 1/4 ถ้วย SP 2 ช้อนชา
นมข้นจืด 1/4 ถ้วย
นำ้มะนาว 1 ช้อนชา (ถ้าชอบใส่ลูกเกตุ 100 กรัม หรือเชอร์รี่เขียวแดงก็ได้)

วิธีทำ
1. ร่อนแป้งกับผงฟู
2. ตีไข่ นำ้ตาล SP นำ้ นำ้ใบเตย ด้วยความเร็วสูงจนข้นขาว (8-15 นาที) จนตั้งยอดอ่อนๆ
3. ตีด้วยความเร็วตำ่ เติมแป้ง คนจนเข้ากันดี เติมนมและมะนาว คนให้เข้ากัน เติมลูกเกตุ คนจนขนมอ่อนตัว หยอดใส่พิมพ์กระดาษที่วางในพิมพ์เหล็ก
4. นำไปนึ่งไฟอ่อน 10-15 นาที ยกลงแกะออกจากพิมพ์ขณะอุ่นๆปกติจะตี 10 นาที นึ่ง 12 นาทีค่ะ เวลาแกะออกจากพิมพ์หรือจับขนม ให้ใส่ถุงมือ ขนมจะเสียช้าลง อยู่นอกตู้เย็นได้ 3 -4 วันสูตรนี้นุ่มชุ่มไม่ติดคอค่ะ ลองทำดูนะคะ

ขนมปุยฝ้าย สูตร2
-แป้งเค้กบัวแดง 200 กรัม
- ไข่เป็ดหรือไข่ไก่ใหม่ 3 ฟอง (ให้เนื้อสัมผัสต่างกันเล็กน้อย)
- น้ำตาลทรายละเอียด 230 กรัม
- น้ำเปล่า 90 กรัม (ใช้น้ำลอยดอกมะลิ, น้ำใบเตยแทนได้)
- กลิ่นมะลิ หรือกลิ่นวนิลา 1/2 ช้อนชา
- น้ำมะนาว 2 1/2 ช้อนชา
- สีผสมอาหารที่ชอบเล็กน้อย

วิธีทำ
- ตั้งน้ำใส่ลังถึงเตรียมไว้ให้เดือด ใส่น้ำ 3/4 ของหม้อ
- ร่อนแป้งพักไว้ ตอกไข่ใส่ชาม ตีให้ขึ้นฟู โดยทะยอยใส่น้ำตาลตีจนน้ำตาลละลาย และไข่ขึ้นฟูขาว
- ใส่กลิ่นมะลิหรือวนิลาในน้ำ
- แบ่งแป้งใส่ในไข่ตีพอเข้ากัน สลับด้วยส่วนผสมของเหลว (น้้ำ+น้ำมะนาว)
กับแป้ง โดยขึ้นด้วยแป้ง จบด้วยแป้ง
- พอส่วนผสมทั้งหมดเข้ากัน แบ่งออกมาใส่สี ใช้วิธีการตะล่อมอย่างเบามือ ให้สีเข้ากัน
- หยอดใส่พิมพ์กระดาษที่รองด้วยถ้วย หยอดเกือบเต็มพิมพ์
- วางถ้วยในลังถึงให้มีระยะห่าง อย่าให้ชนขอบลังถึง นำลังถึงไปตั้งบนน้ำเดือดที่รี่ไฟอ่อน ใช้เวลานึ่งประมาณ 15 นาที

#‎ขนมปุยฝ้าย สูตร3ฟักทอง‬ส่วนผสม

แป้งเค้ก พัดโบกถุงส้ม 2 ถ้วยตวง
ผงฟู 1 ช้อนโต๊ะ
เนื้อฟังทองนึ่งบด 250 กรัม
ไข่ไก่ อุณหภูมิห้อง 3 ฟอง
น้ำตาลทราย 1.5 ถ้วยตวง
น้ำเปล่า 1 ถ้วยตวง
นมข้นจืด 4 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
เอสพี 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
1. ร่อนแป้งเค้กและผงฟูเตรียมไว้
2. เตรียมชามผสม นำเนื้อฟักทองบด น้ำตาล ไข่ไก่ น้ำเปล่า และเอสพี ตีส่วนผสมทั้งหมดนี้เข้าด้วยกัน
ด้วยหัวตีตะกร้อด้วยความเร็วสูง 3-5 นาที หรือจนขึ้นฟูตั้งยอด 3 เท่าตัว
3. ลดความเร็วให้เหลือระดับปานกลาง ค่อยๆเทแป้งที่ร่อนกับผงฟูลงไปทีละส่วน จนหมด
(อย่าลืมปาดขอบอ่างผสมเรื่อยๆนะคะ) ตีต่อไปจนเนียน
4. ใส่นมข้นจืด น้ำะนาว และกลิ่นวานิลา ตามลงไปทีละอย่าง ตีผสมให้เข้ากัน
5. ตักใส่กระทงพักไว้ แล้วไปเตรียมต้มน้ำสำหรับนึ่งขนมกันค่ะ
6. ก่อนนำไปนึ่ง ควรทิ้งแป้งไว้อย่างน้อย 20-30 นาทีนะคะ
‪#‎ใช้เวลาในการนึ่ง‬ 10-15 นาทึ แล้วแต่ความเล็กใหญ่ของกระทงนะคะ ในภาพนี้ กระทงขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 5ซม. ค่ะ ขนมจะได้ออกมาหน้าแตกสวยงามค่ะ
ให้นึ่งไฟแรงพอสมควรนะคะ น้ำต้องเดือดพล่าน

 

หมูสามชั้นทอดน้ำปลา

หมูสามชั้นทอดน้ำปลา
ส่วนผสม
หมูสามชั้น 1 กิโลกรัม
น้ำปลา 7-8 ช้อนโต๊ะ
ไข่ไก่ 1 ฟอง
พริกไทยป่น 1 ชช.
รสดีรสหมู 1/2 ชต 
แป้งโกกิประมาณ 10 ช้อนโต๊ะ ไม่มีใช้แป้งสาลีอเนกฯ
น้ำเย็นนิดหน่อยค่ะ 

วิธีทำ
ใช้มีด/ซ้อมจิ้มๆให้ทั่วหมูโดยเฉพาะหนังหมูค่ะ ใส่น้ำปลา รสดี และก็ไข่ไก่ลงไปผสมกับหมู
คลุกให้เข้ากันค่ะ แล้วก็ค่อยๆโรยแป้งโกกิให้ทั่วทีละน้อย พรมน้ำเย็นทีละนิดเพื่อช่วยละลายแป้ง
นวดเบาๆสัก5นาที แล้วหมักไว้สัก30นาทีค่ะ เวลาทอดก็ใส่น้ำมันลงในกระทะกะให้ท่วมหมูค่ะ
ใส่น้ำส้มสายชูและเกลืออย่างละนิด ลงในน้ำมัน พอน้ำมันร้อนก็เอาหมูลงทอดค่ะ
ใช้ไฟค่อนข้างแรงนะค่ะ ทอดจตหมูเหลืองสวยแล้วก็เอาขึ้นได้เลยค่ะ

 

 

Potato Soufflé

Potato Soufflé
http://www.homecookingadventure.com/recipes/potato-soufflé

Ingredients:
Makes 4 servings
2 tbsp (30g) butter, plus extra for greasing
3 tsp breadcrumbs, for coating the ramekins
1 large potato (300g), cooked with peel on
1 1/3 cups (85g) mature Cheddar, grated
1/3 cup (30g) Parmesan Cheese, grated
2 tbsp fresh chives
2 eggs
freshly ground black pepper
6 tbsp milk
paprika, for garnish

Directions
1. Preheat the oven to 450F(220C) and put a baking sheet in the oven to heat up. Butter 4 ramekin dishes and dust with breadcrumbs.
2. Peel the cooked potato and place in a medium bowl. Use a potato masher to mesh it well.
3. Grate the cheese and separate egg yolks from the whites. Add cheese, chives, black pepper and egg yolks over the mashed potato.Stir to combine.
4. In a small pan warm the milk with butter until the butter melts and pour over the potato mixture. Stir to combine.
5. Whisk egg whites until stiff peaks form. Gently fold the egg whites into the potato mixture.
6. Fill the prepared ramekins with potato mixture and sprinkle paprika on top. Place in the oven on the preheated baking sheet and bake for 15-17 minutes until puffed and golden.

 

 

ขนมจีนน้ำยาปลาช่อน

ขนมจีนน้ำยาปลาช่อน
ปลาช่อน 1โล
พริกชี้ฟ้าแดงใหญ่
พริกขี้หนูแบบแห้ง
พริกขี้หนู
ตะไคร้
ข่า
ขมิ้น
กะปิ
ใบมะกรูด
น้ำตาลปี๊บ
น้ำตาลทราย
เกลือ
ผงชูรส
ล้างปลาให้เมือกที่ตัวออกให้หมดเพื่อลดความคาวของน้ำแกง. ตั้งหม้อใส่น้ำพอท้วมปลา น้ำเดือดใส่ใบมะกรูดตะไคร้ ทุบ ใส่ปลาช่อน รอจนมั่นใจว่าปลาสุขดีหรือน้ำในหม้อลดลงกว่าตัวปลา ตักปลามาพักพร้อมแกะกล้องและหนังปลาออก. เอาน้ำที่ต้มปลากรองเอาแต่น้ำนะคร่ะ. เอาเครื่องแกงที่เตรียมไว้ ในไปปั่นพร้อมกะน้ำกะทิ ปั่นจนละเอียดดี ใส่กะปิ ปั่นต่อ เติมน้ำกะทิค่อยๆใส่เนื้อปลาลงปั่นร่วมจนหมด เติมกะทิได้เลื่อยๆนะคร่ะ ไม่เอาน้ำเปล่านัคร่ะ. ปั่นเรียบร้อยเอาใส่หม้อใบเดิม เติมกะทิและน้ำต้มปลาที่เราเตรียมไว้ ตั้งไฟจนเดือด ปรุงรสด้วย น้ำตาลทรายน้ำตาลปี๊ป เกลือ ผงชูรส เนื้อส้มมะขามเปียกใส่ไปสักก้อนเล็กๆเท่าเหรียญบาทอะคร่ะ. ส้มมะขามเปียกมีข้อดีทำให้น้ำแกงไม่บูดง่าย แถมรสชาติจะดีขึ้นกว่าเดิมเยอะเรยคร่ะ. เคี้ยวต่อจนน้ำแกงลดจากเดิมสักประมาณเซ็นนึงก็ปิดเตา